สิ่งที่ต้องทำ

บริเวณ ที่ราบบิโจไดระ

ตำนานต้นสนยักษ์・ “บิโจสุงิ”(ต้นสนหญิงงาม)ตั้งแต่ยุคสมัยแรก ๆ สูงตระหง่านขึ้นขวักไขว่ทอดไปตามแนวถนนสำหรับเดินเล่น

・ป่าในยุคแรกที่ราบบิโจไดระ
เป็นอาณาบริเวณที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่เช่นต้นสนทาเตยามะและไม้บีชต่าง ๆ ที่เกิดในยุคแรก ๆ เรียงรายกันสวยงาม
・เนินต้นบีชญี่ปุ่น
เส้นทางเดินเล่นเน้นการได้ชมความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ป่าไม้บีชที่เจริญเติบโตมาจากยุคแรก ๆ และมีอายุกว่า 200 ปี
・การชมนก
จากการตรวจสอบที่ราบบิโจไดระพบนกป่า 60 ชนิดจึงเรียกได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งที่ผู้คนจำนวนมากต้องการไปชมนก

ต้นสนญี่ปุ่นที่ทาเตยามะ

ต้นไม้ขนาดใหญ่แต่ละต้นที่มีความสูง 20-30 เมตร,ที่วัดลำต้นโดยรอบได้ 6-10 เมตรก็มีอยู่หลายต้น ที่ประมาณอายุว่ามากกว่า 1000 ปีก็มีด้วย จึงได้ตั้งชื่อให้ดูน่าสนใจ เช่น  ต้นสนต้อนรับ ต้นสนเลี้ยงลูก ต้นสนแม่นม ต้นสนสุดขอบฟ้า ไม้อมตะ
ดูรายละเอียดที่หน้าเส้นทางสำหรับเดินเล่น.

“บิโจสุงิ”ตำนานต้นสนหญิงงาม

เมื่อ 1,300 ปีก่อนได้มีเจ้าหญิงคู่หมั้นที่มีรูปโฉมงดงามที่กล่าวกันว่าเป็นผู้บุกเบิกทาเตยามะเจ้าหญิงอยากพบกับคู่หมั้นจึงได้ปีนขึ้นไปบนเขาทาเตยามะ แต่เนื่องจากมีข้อห้ามที่เชื่อกันว่าห้ามผู้หญิงปีนภูเขาแห่งนี้จึงได้ถูกไล่ให้กลับลงมา และระหว่างทางได้พบต้นสนต้นหนึ่ง เจ้าหญิงจึงตั้งจิตอธิษฐานขึ้นว่า “ต้นสนที่งดงาม หากเจ้ามีหัวใจเช่นกันกับเราช่วยฟังคำวิงวอนของเราด้วยเถิด” และ หลังจากนั้นสิ่งที่อธิษฐานขอได้กลายเป็นจริงเมื่อทั้งสองได้หมั้นหมายกัน ดังนั้น สนต้นนี้ จึงถูกเรียกว่า บิโจสุงิ (ต้นสนหญิงงาม) และบริเวณนั้นได้ถูกเรียกว่า บิโจไดระ (ที่ราบหญิงงาม)

บริเวณ ทุ่งมิดางะฮาระ

ทุ่งมิดางะฮาระมีความสูง 1900 เมตร นับเป็นบริเวณที่ลุ่มมีน้ำขังขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เส้นทางสำหรับการเดินป่าห้อมล้อมไปด้วยพืชไม้นานาพันธุ์ตามแบบเทือกเขาแอลป์ มีการจดทะเบียนในอนุสัญญาแรมซาร์ ให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำอันสำคัญของโลก เมื่อเดือนกรกฎาคมปีค.ศ.2012

ถนนเดินชมธรรมชาติที่ทุ่งมิดางะฮาระ

เส้นทางเดินที่จัดให้เที่ยวชมพฤษชาติในบึงน้ำขังขนาดใหญ่ วิวในมุมกว้าง 360 องศา งดงามเต็มไปด้วยพืชพันธุ์ป่าไม้บนภูเขา บริเวณเส้นทางเดินชมธรรมชาติพืชพันธุ์ไม้พื้นเป็นที่ชุ่มน้ำที่งดงาม มีบึงน้ำเล็กๆกระจายเป็นแห่ง ๆ นับเป็นสถานที่ชม
ดูรายละเอียดที่หน้าเส้นทางสำหรับเดินเล่น.

มูโรโด

กำแพงหิมะ “ยุคิโนะโอทานิ”

พื้นที่ทาเตยามะมีหิมะตกมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก มีการทับถมโดยเฉลี่ยสูง 7 ม.และสูงถึง 20 ม.ในปีหิมะตกหนัก (เท่าตึก10 ชั้น) สามารถเดินผ่านกำแพงหิมะที่ขุดเป็นทาง 500 ม.สัมผัสประสบการณ์เล่นกระดานหิมะ หรือได้เห็นรถโกยหิมะอยู่บ้างช่วงกลางเดือนเม.ย
หลังเปิดเส้นทางปลายเดือนเม.ย.-มิ.ย.กำแพงหิมะจะมีขนาดใหญ่ที่สุด หลังเดือนก.ค. กำแพงหิมะจะลดระดับความสูงเรื่อย ๆ แม้เข้าเดือนส.คก็ยังมีหิมะเหลือให้เล่นกันได้

  • ・บึงมิกุริกะ

    ทัศนียภาพงดงามอันเป็นเหมือนตัวแทนของมูโรโด ที่ปล่องภูเขาไฟทาเตยามะบริเวณทะเลสาบ,หลังเดือนมิถุนายนผิวน้ำในทะเลสาบจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม หรือสีเขียวมรกต (cobalt blue) สะท้อนให้ภาพภูเขาทาเตยามะโดดเด่นบนผืนน้ำอย่างงดงาม บ่อน้ำแห่งนี้มีชื่อว่า“คามิ-โนะทาเมะโนะ-โชโบ-โนะอิเคะ”(ครัวเพื่อเทพเจ้า) ในสมัยก่อน เชื่อกันว่าใช้น้ำจากบ่อน้ำแห่งนี้นำไปปรุงอาหารเพื่อถวายแด่เทพเจ้า ในป่าสนบริเวณใกล้เคียงยังมีนกไรโจ(นกสายฟ้า)อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณแห่งนี้อุดมไปด้วยพืชพรรณไม้บริเวณภูเขาสูง ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินเล่นเป็นอย่างยิ่ง

  • ・น้ำพุร้อนทาเตยามะ-ทามะโดโน

    นี่คือน้ำบริสุทธ์จากธรรมชาติรสชาติแสนอร่อยให้ความชุ่มคอสำหรับผู้คนจำนวนมากที่มาเยือน จะสามารถดื่มได้เพียงช่วงหิมะเริ่มละลายระหว่างต้นเดือนมิถุนายนถึงปลายเดือนตุลาคมเท่านั้น

  • ・น้ำพุร้อนมิกุริกะ-อิเกะ

    เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ระหว่างกลางในเขต เส้นทางเดินเล่นที่บึงมิกุริกะ มีสถานที่หยุดพักผ่อนและสามารถอาบน้ำแร่แบบไปเช้าเย็นกลับ และมีไอศครีมให้รับประทานด้วย

  • ・ศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติ

    ถูกสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้มาเยือนได้ศึกษาและสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ที่หลากหลายอันเป็นธรรมชาติแบบเทือกเขาทาเตยามะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์พืชหรือสัตว์หายากก็ปรากฏพบและรวมอยู่ในอาณาเขตของภูเขาทาเตยามะแทบทั้งสิ้น

ไรโจซาวะ(ที่ตั้งแคมป์)

เส้นทางเดินเล่นที่บึงมิกุริกะ ที่อยู่ด้านบน,บริเวณรอบ ๆ ที่ราบ มูโรโด มีทิวทัศน์ช่วงใบไม้ผลัดสีที่สวยงามที่สุด ฤดูใบไม้ผลิสนุกกับการเล่นสกีบนหิมะที่เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ทุ่งดอกไม้พืชพันธุ์แบบเทือกเขาแอลป์เต็มพื้นที่ในฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงเพลินใจกับใบไม้ผลัดหลากหลายสีสวยงามได้เช่น สีแดง เหลือง สีส้มอมแดง และสีเขียว ที่ไรโจซาวะ มี กระท่อม 3 ที่บนภูเขามีน้ำพุร้อนให้ลงแช่แบบไปเช้าเย็นกลับได้ ในราคา 500-600 เยน

Climbing Mt. Tateyama

เส้นทางเดินป่าจากสถานี Murodo ไปยัง Mt. โอยาม่า (3,003 ม.) ซึ่งเป็นหนึ่งในยอดเขา Tateyama มีศาลเจ้าที่ยอดเขาพร้อมวิวมุมกว้างและความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นภูเขา ฟูจิในวันที่อากาศแจ่มใสดูหน้าหลักสูตรการเดิน

เส้นทางจุดชมวิวภูเขามูโรโด

เส้นทางปีนเขาเริ่มจากสถานีมูโรโดจนถึงภูเขามูโรโดและภูเขาโจโดะ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นหลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องล่างได้ และยังสามารถมองเห็นภูเขาที่สำคัญของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น อย่างเช่น ภูเขายาริงาตาเกะได้ด้วย

สถานี ไดกันโบ

จุดชมวิวบนดาดฟ้าของสถานีจะสามารถมองเห็นภาพวิวทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น,ทะเลสาบที่เขื่อนคุโรเบะแบบพาโนราม่าซึ่งเป็นความงดงามหาที่เปรียบไม่ได้บนเส้นทางสายแอลป์ สามารถมองเห็นหุบเขาใหญ่ ฮาริโนะคิ-ได เซกเก 1 ใน 3 หุบเขาใหญ่ของญี่ปุ่นที่ยังคงมีหิมะปกคลุมอยู่ในช่วงฤดูร้อน และมองเห็นภูเขาคาชิมายาริงาตาเกะ(2,889เมตร) 1 ใน100 ภูเขามีชื่อของญี่ปุ่นด้วย

ที่ราบคุโรเบะไดระ

เมื่อออกจากสถานีจะได้ชมทัศนภาพยิ่งใหญ่ของสวน,ทิวเขา,ทะเลสาบคุโรเบะและพฤษชาติแบบเทือกเขาแอลป์ด้วย

เขื่อนคุโรเบะ

เขื่อนคุโรเบะมีความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล,ความสูงตัวเขื่อน 186 เมตร เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้ง(Arch dam) ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ปริมาณการระบายน้ำ : 10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ปริมาณการเก็บกักน้ำ : 2 พันล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อปี : 1 หมื่นล้าน kWh

จุดชมวิวบนเขื่อน

เมื่อขึ้นบันไดไป 220ขั้นจะถึงลานที่สามารถชมทิวทัศน์ของเขื่อนคุโรเบะได้ดีที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถชมการปล่อยน้ำได้โดยใกล้ทุกวินาทีน้ำจะพุ่งออกมาจากเขื่อนมากกว่า10ตันน้ำพลังมหาศาลนี้ทำให้เกิดสายรุ้งพาดผ่านที่ดูแล้วสวยงามมาก

“กาลุเบะ”เรือท่องเที่ยวทะเลสาบคุโรเบะ

ล่องเรือสำราญบนความสูงที่สุดในญี่ปุ่น(1448 เมตร) ทัศนียภาพทะเลสาบคุโรเบะกับวิวเทือกเขาแอลป์สะท้อนบนผิวน้ำที่นี่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

  • ใช้เวลา นาที
  • ระยะการเดินทาง 11.5 กิโลเมตร
  • (ช่วงที่เปิดบริการล่องเรือ: 1 มิถุนายน ~10 พฤศจิกายน )

อื่น ๆ

บริเวณ น้ำตกโชเมียว

น้ำตกโชเมียว เป็นน้ำตกในญี่ปุ่นที่แตกต่างจากน้ำตกอื่นเป็นอย่างมาก ตรงที่น้ำมีการไหลตกลงมาด้วยความยาว 350 เมตร และตกด้วยส่งเสียงดังไม่ขาดสายตลอดระยะทางที่ไหลตกลงมา ช่วงฤดูใบไม้ผลิ น้ำจากหิมะที่ละลายเป็นน้ำตกฮันโนกิสูง 500 เมตร ซึ่งจะเห็นปรากฏอยู่คู่กัน รถบัสโดยสารต่าง ๆ ให้บริการที่นี่จากสถานีทาเตยามะ บริเวณนี้ชมทัศนียภาพช่องแคบระหว่างหุบเขาที่สวยงามได้เป็นมุมกว้างโดยรอบ เนื่องจากมีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 600 เมตร ทำให้สามารถได้ชมความเปลี่ยนแปลงของพฤษชาติได้โดยทั่ว และสามารถชมทิวทัศน์ของน้ำตกโชเมียวจากจุดชมวิวได้หลากหลายมุมเมื่อหยุดพักระหว่างทางด้วย

บริเวณ โองิซาวะ, โอมัตจิ

โองิซาวะเป็นทางเข้าเส้นทางแอลป์ทางด้านนากาโน่ เป็นสถานีปลายทางที่กว้างขวางและมีร้านอาหารหรือร้านขายของที่ระลึกด้วย ระยะการเดินทางระหว่างโองิซาวะกับการทางรถไฟสถานีชินาโน่-โอมัตจิ โดยรถบัสใช้เวลา 40 นาที มีแหล่งน้ำพุร้อนโอมัตจิอยู่ช่วงกลางระหว่างเส้นทาง

แหล่งน้ำพุร้อนโอมัตจิ

เป็นแหล่งบ่อน้ำพุร้อนและโรงแรมแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่เรียงราย สามารถชมทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่และคลายความเหนื่อยล้าในการเดินทางไปด้วย ที่ใกล้กับป้ายจอดรถบัสมีสถานที่อาบน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับที่ภายในมีพิพิธภัณฑ์องเซ็นแอลป์,พิพิธภัณฑ์เหล้าญี่ปุ่นที่ให้ลองชิมได้ และมี“พิพิธภัณฑ์ศิลปะภาพ ก๊อดโฮ-งะ-ไอชิตะ-อุกิโยเอะ” (ภาพที่ วินเซ้นต์ แวน โก๊ะ(Vincent van Gogh) รัก) อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์โอมัตจิ-ซังกะกุ

แสดงนิทรรศการภาพเกี่ยวกับเทือกเขาทาเตยามะต่าง ๆ เช่นธรรมชาติหรือการอาศัยอยู่ของพืชและสัตว์,เครื่องมือและประวัติการปีนเขา สามารถเห็นเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นในมุมกว้างมากจากจุดชมวิวชั้น 3 สวนพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าในสังกัดจะสามารถชมเลียงผาญี่ปุ่นต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านประตู สวนสาธารณะโอมัตจิที่อยู่เบื้องล่างพิพิธภันฑ์ ช่วงกลางเดือนเมษายน~ ต้นเดือนพฤษภาคมจะมีดอกซากุระบานสะพรั่งสวยงามชวนชมมาก ดูรายละเอียดที่หน้า เว็บไซต์ เมือง โอมัตจิ สมาคมการท่องเที่ยว.